6 เซรั่มตัวดัง ที่อยากชวนไปตำ เปลี่ยนหน้าพังให้กลายเป็นหน้าปัง

Highlights:

• 6 เซรั่มตัวดัง ตัวช่วยแก้ไขปัญหากวนใจบนใบหน้าได้แบบเห็นผลทันใจ! ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวที่สาวๆกังวลได้ดีเยี่ยม
• แนะนำเซรั่มตัวท็อป แก้ไขปัญหาเฉพาะจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง ที่ว่าหายยากสุดๆ พร้อมบำรุงให้ผิวมีความสมดุลย์ สีผิวสม่ำเสมอ ตอบโจทย์คนชอบ แคะ แกะ เกา จนทำให้ผิวเป็นรอย
• นวัตกรรมของสกินแคร์ที่ก้าวหน้าไปถึงขั้นการรวมเซรั่มสูตรน้ำ + น้ำมันไว้ในขวดเดียว ด้วย Packaging ที่ช่วยคำนวณการใช้งานให้ได้โดยอัตโนมัติ ใช้งานง่ายขึ้นอีกเยอะ!

เผลอแป็ปเดียวก็เข้าสู่วัยทำงานที่เริ่มมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าได้อย่างชัดเจน จากปัญหาผิวที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในช่วงวัยเรียน ก็เริ่มมีปัญหากวนใจ ทั้งเรื่องของ ริ้วรอย ซึ่งเกิดจากผิวขาดน้ำ ความหมองคล้ำที่มาจากการออกนอกสถานที่หรือนั่งอยู่หน้าจอคอมเป็นเวลานาน รอยดำ รอยแดง ที่เกิดจากสิว ซึ่งบอกเลยว่าปัญหาพวกนี้แก้ได้ยากมาก ควรเริ่มมองหาตัวช่วยดีๆ ที่มาช่วยแก้ไขปัญหาพวกนี้อย่างเร่งด่วน เพราะยิ่งอายุมากการแก้ไขปัญหาผิวต่างๆก็จะยิ่งยากมากขึ้นไปด้วย รีบไปดูตัวช่วยที่เราหยิบมาแนะนำกันเถอะ

คำเตือน: เก็บหอมรอมริบเงินเอาไว้ให้พร้อม เพราะบอกเลยว่าแต่ละตัวราคาแรงสมกับคุณภาพแน่นอน

1. Estee Lauder Advance Night Repair

ขึ้นแท่นเป็นเซรั่มตัวดังในตำนานเป็นที่เรียบร้อย หลังจาก Beauty blogger หลายคนออกมารีวิวเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้แล้วเลิฟมากจนต้องเอามาบอกต่อ เพราะให้ความรู้สึกหน้านุ่ม ตื่นมาแล้วผิวหน้าฟู แต่งหน้าติด ทำให้หน้าชุ่มชื้น พวกร่องรอยของผิวที่ขึ้นเป็นริ้วๆก็สามารถซ่อมแซมได้ดี แต่ต้องบอกเลยว่าคุณสมบัติดีครบถ้วนแบบนี้ราคาก็แรงตามคุณภาพนะจ๊ะ จัดอยู่ในกลุ่มเซรั่ม Hi-en ที่ฮอตมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2018 เลยทีเดียว

Review : ชอบความเป็นเนื้อเซรั่มที่ลงผิวหน้าครั้งแรกจะรู้สึกหนึบๆแต่พอเกลี่ยแล้วเนื้อเซรั่มถือว่าซึมซับเข้าสู่ผิวได้ไวพอสมควร เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะบนใบหน้า โดยเฉพาะตอนกลางคืน แถมตื่นมาตอนเช้ารู้สึกได้ว่าผิวหน้าฟู แต่งหน้าได้ติดทนมากขึ้น และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีเลย ให้คะแนน 9/10 (หักคะแนนบรรจุภัณฑ์แอบใช้ยากนิดนึงค่า)

Recommended : ทางแบรนด์เคลมว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว แต่แอบถามจากเจ้าหน้าที่เคาท์เตอร์แบรนด์หลายคน เซรั่มตัวนี้ถูกออกแบบมาสำหรับกลุ่มคนที่เข้าสู่วัย 30 ต้นๆ เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆในเรื่องของ ความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ริ้วรอย ความหมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ หรือผิวหน้าที่ดูร่วงโรยผิวดูเลือนลง เจ้าเซรั่มตัวนี้ก็จะช่วยทำการบำรุงในซ่อมแซมผิวหน้าของเราในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี

central .co.th

ราคา: 4,700 บาท (50 ml.)

2. CLARINS – DOUBLE SERUM Complete Age Control

Brand:  Clarins

เซรั่มตัวที่ 2 ที่ขอยกให้เป็นชิ้นโปรดของใครหลายคนอีกเช่นเคย เป็นแบรนด์จากฝรั่งเศส ซึ่งจัดว่าเป็น Skincare Brand อันดับหนึ่งของฝั่งยุโรป ได้รับรางวัลการันตีมาแล้ว  212 รางวัลจากทั่วโลก โดยความพิเศษอยู่ที่การรวมเซรั่มสูตรน้ำ และสูตรน้ำมันงา มาไว้ด้วยกันในขวดเดียวในสัดส่วน 2:1 เพื่อช่วยในเรื่องของ การฟื้นบำรุงให้ระดับความชุ่มชื้นสมดุล ผิวบริเวณที่มันเกินไปก็จะมันน้อยลงเพราะได้น้ำลงไปเติมให้ผิว ผิวจึงผลิตน้ำมันมาปกป้องผิวน้อยลง ส่วนผิวบริเวณที่แห้งเกินไปก็จะได้น้ำมันช่วยซีลและเก็บกักความชุ่มชื้นให้ดียิ่งขึ้น

Double Serum จึงเป็นเซรั่มที่ออกแบบมาสำหรับทุกสภาพผิวอย่างแท้จริง แถมแพ็คเกจยังถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยมเหมาะกับไลฟ์สไตล์และสภาพผิวที่แตกต่างกัน เช่น การใช้ในปริมาณที่น้อย สำหรับตอนเช้า และปรับระดับให้มากยิ่งขึ้นเพื่อการดูแลพิเศษสำหรับ ตอนกลางคืน โดยยังคงสัดส่วน 2:1 ที่แม่นยำเช่นเดิม

Review : ส่วนตัวชอบเนื้อเซรั่มของตัวนี้มาก เพราะไม่มีความเหนียว เกลี่ยง่าย แถมยังซึมไวมาก แอบมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย ความรู้สึกจะต่างกับใช้ตัวแรกอยู่หน่อยตรงที่ตัวนี้จะได้ทำให้ตื่นมาแล้วผิวหน้าฟูแบบเห็นได้ชัด แต่ใช้ไปสักระยะรู้สึกได้ว่าผิวแข็งแรงขึ้นจริงๆ สิวขึ้นน้อยลง หน้าที่เคยมันสุดๆ ต้องใช้กระดาษซับหน้ามันวันละหลายแผ่นก็ดีขึ้นมาก แถมยังแอบรักในแพ็คเกจที่ใช้สะดวก พกพาง่าย ให้คะแนน 10/10 ไปเลย

Recommended : สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพราะอย่างที่บอกว่าส่วนผสมของเซรั่มถูกออกแบบมาเพื่อปรับสมดุลให้กับผิวของเรา

.central.co.th/

ราคา:  3,700 บาท ( 30 ml)

3. Sulwhasoo First Care Activating Serum EX

ต่อที่ Pre-serum สารสกัดโสมเข้มข้น จากเกาหลีที่ใครก็บอกว่าดีมากจนต้องบอกต่อ ซึ่งตัวนี้จะแตกต่างจากเซรั่มตัวก่อนหน้านิดหน่อย เพราะเป็นเหมือนตัวเสริมให้ครีม หรือเซรั่มตัวอื่นๆของเราซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น และทำงานกับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพล้ำลึก ช่วยปรับสมดุลให้กับผิวของเรา ทำให้หน้าดูอิ่มน้ำ เนื้อเซรั่มจะเหลวที่ไม่ทำให้เรารู้สึกเหนียวเหนอะหนะเลยแม้แต่นิดเดียว ใช้เป็นตัวแรกสุดหลังการล้างหน้าทันที ก่อนที่จะลงสกินแคร์ตัวอื่นๆสามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้า-เย็น ใครกำลังหา Pre-serum ดีๆซักตัว เราแนะนำตัวนี้เป็น Must have item อีกหนึ่งตัวละกันนะ

Review : ชอบความเป็นเนื้อเซรั่มที่ไม่เหนียวเลยแม้แต่นิดเดียว ซึมเข้าผิวช้ากว่าตัวอื่น มีกลิ่นโสมที่ตอนแรกรู้สึกว่าฉุนแต่ทาไปเรื่อยๆรู้สึกว่าหอมซะงั้น แต่รู้สึกว่ามันช่วยเสริมให้ครีมตัวอื่นๆทำงานได้ดีขึ้นจริงๆนะ ใช้แล้วหน้าจะเด้งๆนุ่มๆปัญหาหน้าแห้งเป็นริ้วๆก็ดีขึ้นด้วย ยิ่งถ้าใช้กับครีมตัวอื่นๆที่มาในไลน์เดียวกันของนางบอกเลยว่าเริ่ดจริงๆ ส่วนเรื่องแพ็คเกจที่เป็นขวดแก้ว มีความหนัก พกพาไปไหนยากนิดนึง 9/10

Recommended : สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว

ราคา: 2,800 (60 ml.)

4. KIEHL’S Clearly Corrective™ Dark Spot Solution 

สำหรับใครกำลังมีปัญหาเรื่องฝ้า รอยดำ รอยแดง เราแนะนำว่าเซรั่มตัวนี้น่าโดนมากๆ เป็นอีกหนึ่งตัวที่ Recommend กันมาหลายรีวิวแล้ว ด้วยสรรพคุณที่ถูกใจชาวเราที่ชอบแคะแกะเกาจนทำให้เกิดรอยสิว และบอกเลยว่ารอยพวกนี้หายยากมากแม่ เซรั่มตัวนี้โดดเด่นเพราะถูกคิดค้นมาโดยเฉพาะเรื่องการเข้ามาช่วยเรื่องของ รอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว หรือรอยฝ้าต่างๆ โดยปรับโทนสีผิวให้มีความสมดุลกัน  ช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ๆ และป้องกันการเปลี่ยนสีของเม็ดสีผิวเมื่อใช้เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นเซรั่มที่สามารถแก้ไขปัญหาให้เราได้อย่างตรงจุดเลยทีเดียว

Review : ปกติเป็นคนที่มีรอยสิวค่อนข้างเยอะ (เกิดจากความซุกซน ชอบแคะแกะเกานี่แหละ) หลังใช้ไปได้ 1 สัปดาห์รู้สึกว่ารอยแดงดูจากลงเร็วมาก สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น แถมเนื้อเซรั่มก็ซึมเร็วและไม่เหนียว ทาได้ทั้งตอนเช้าและกลางคืน เลยรู้สึกแฮปปี้กับเซรั่มตัวนี้มากๆ ติดที่ราคาแอบแรงไปหน่อย ให้คะแนน 10/10

Recommended : แบรนด์เคลมว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางก็สามารถใช้ได้ เพราะฉะนั้นใครที่แพ้ง่ายก็คิดว่าสามารถใช้ได้นะ เพราะปราศจากสี ซิลิโคน สารกันเสีย น้ำหอม รวมถึงเทคโนโลยีกระจายแสง (Optical Diffuser)

ราคา: 2,700 (30 ml.)

5. Kielh’s Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate

เซรั่มวิตามินซี (Vit C Serum) สูตรเข้มข้นลดเลือนริ้วรอยได้อย่างทรงประสิทธิภาพ บำรุงล้ำลึก โดยเพิ่งมีการปรับสูตรใหม่ เพิ่มส่วนผสมของวิตามินซีและเสริมด้วยไฮยาลูโรนิก แอซิด ถึง 12.5%โดยมีคุณสมบัติที่ช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิวอย่าางต่อเนื่องและยาวนาน ทำให้ช่วยเรื่องของผิวหน้าที่ดูกระจ่างใส ลดเรือนริ้วรอยลึก ปรับปรุงผิวชั้นนอกให้ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะรอยบริเวณร่องแก้ม รอบๆ ริมฝีปาก หน้าผาก สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น ถือเป็นอีกเซรั่มตัวดังของแบรนด์ Kiehl’s

Review : เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้รู้สึกมันเยิ้ม แอบมีกลิ่นหอมสดชื่นแบบ citrus ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็รู้สึกว่าหน้าดูกระจ่างใสมากขึ้นจริงๆ รอยแห้งที่เป็นริ้วๆบนใบหน้าโดยมีสาเหตุที่มาจากผิวขาดน้ำ ทำให้หน้าชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  9/10

Recommended : เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น และความกระจ่างใส

ราคา:  3,200 บาท (50 ml.)

6. Biotherm Blue Therapy Accelerated Repairing Serum

 ตัวสุดท้ายที่หยิบมาแนะนำ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับแบรนด์นี้จาก LIFE PLANKTON™ ESSENCE ที่โดดเด่นเรื่องการช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ริ้วรอยได้เริ่ดมาก แต่อาจจะยังไม่เคยรู้จักกับเซรั่มสูตรใหม่ ที่เน้นเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ ความกระชับของผิวหน้า และช่วยเรื่องความหมองคล้ำของผิว กระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่มของผิว ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีพลังงานในการสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว พอเป็นเนื้อเซรั่มจะให้เนื้อสัมผัสที่ไม่เหนียวเท่าน้ำตบ เรียกได้ว่าเป็นอีกไอเท็มที่ควรลอง

Review : เนื้อสัมผัสไม่เหนียวเหนอะนะ แต่จะมีความมันนิดๆ การซึมเข้าสู่ผิวค่อนข้างดี (แต่แอบรู้สึกว่าช้ากว่าตัวอื่นๆที่ลองมา) ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้าได้อย่างดีเยี่ยม โดยรวมชอบนะแต่ว่าราคาแอบแรงไปนิดนึง

Recommended : เหมาะกับทุกสภาพผิว

ราคา: 3,600 บาท (50 ml.)

บอกได้เลยว่าเซรั่ม 6 ตัวที่เราหยิบมาแนะนำ ถึงจะราคาแรงไปบ้างแต่คุณภาพคุ้มค่าสมราคาแน่นอน! เหมาะกับใครที่กำลังหาตัวช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ทำงานเหนื่อยมาครึ่งปี หาของขวัญให้ตัวเองเป็นเซรั่มซักขวดกันเถอะ!

Comments