รวม ‘กล้องถ่ายภาพส่วนพระองค์’ และพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9

“กล้องถ่ายภาพ” นับว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์อีกอย่างหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กล้องแต่ละรุ่นที่เคยอยู่ในพระหัตถ์กลายเป็นภาพที่ติดตรึงใจของพสกนิกรชาวไทยทุกคน 

การถ่ายภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 เริ่มต้นจากเป็นงานอดิเรกส่วนพระองค์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎรไม่ว่าแห่งใด พระองค์ท่านจะมี กล้องถ่ายภาพ ไปด้วยเสมอ จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์มาจนถึงปีสุดท้ายของการครองราชย์ วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลกล้องถ่ายภาพส่วนพระองค์พร้อมข้อมูลฉบับย่อ และพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาให้เพื่อน ๆ ชาว ShopSpotter ได้ดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ

gfx.aftonbladet-cdn.se

bbc.com

tnews.co.th

Coronet Midget

flickr.com/coleccionandocamaras

Coronet Midget สีเขียว คือกล้องตัวแรกตั้งแต่พระองค์มีพระชนมายุเพียง 8 พรรษา เป็นกล้องถ่ายภาพขนาดจิ๋วที่ทรงได้รับเป็นของขวัญจาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ราคาเพียง 2 ฟรังก์สวิส (70 บาท) ใช้คู่กับฟิล์มขนาด 16 มม. ราคาประมาณ 25 ซองตีม (9 บาท) เท่านั้นเอง

Kodak Vest Pocket Montreux

flickr.com/19994623@N05

และในปีเดียวกันพระองค์ได้รับพระราชทานกล้องถ่ายภาพอีกหนึ่งตัว นั่นก็คือ Kodak Vest Pocket Montreux หรือเรียกตามช่างภาพในสมัยนั้นว่า Minibox เพราะเป็นกล้องทรงสี่เหลี่ยม มีลักษณะพิเศษคือยืดและหดลำกล้องได้ ใช้กับฟิล์มที่ถ่ายได้เพียง 6 ภาพต่อหนึ่งม้วนฟิล์มเท่านั้น

Elax Lumière

collectiblend.com

ต่อมาในปี 2481 พระองค์ทรงมีกล้อง Elax Lumière เป็นกล้องถ่ายภาพที่ผลิตขึ้นจากประเทศฝรั่งเศส นับว่าเป็นกล้องตัวแรกที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีความเชี่ยวชาญ เพราะทรงใช้บันทึกภาพต่าง ๆ ในระหว่างตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาอานันทมหิดลกลับประเทศไทย

Linhof

bhphotovideo.com

ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ทรงใช้กล้อง Linhof จากประเทศเยอรมนี แต่พระองค์ทรงทดลองใช้ได้ไม่นาน เพราะกล้องมีลักษณะค่อนข้างใหญ่ ไม่ถนัดพระหัตถ์

Hasselblad SLR

modernhepburn.tumblr.com

Hasselblad เป็นกล้อง SLR (Single Lens Reflex) จากประเทศสวีเดน จุดเด่นคือเปลี่ยนเลนส์ได้ และยังมีช่องสำหรับเลือกใส่ฟิล์มได้หลายชนิด หลายขนาด พระองค์ทรงใช้กล้องยี่ห้อนี้นานหลายปี จนกระทั่งเกิดแสงรั่วเข้าแมกกาซีน และเนื่องจากช่างไทยในสมัยนั้นยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ พระองค์จึงทรงเลิกใช้งานกล้องถ่ายภาพตัวนี้ไปในที่สุด

Ikoflex

doyoulikevintage.tumblr.com

ในปี 2494 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงใช้ Ikoflex กล้องสะท้อนภาพแบบเลนส์คู่ (Twin Lens Reflex) ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัท Zeiss Ikon ซึ่งพระองค์โปรดกล้องนี้มาก โดยตรัสว่ากล้องถ่ายภาพตัวนี้ใช้ง่าย เลนส์ดี ได้ภาพคมชัดสวยงาม

Contax III

miathletic.com

Contax เป็นกล้องที่บริษัท Zeiss Ikon ได้ผลิตเลนส์ให้ นับเป็นกล้องที่ทันสมัยในช่วงนั้น และพระองค์ทรงใช้อยู่บ่อยครั้งเมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่าง ๆ

Super Ikonta

earlyphotography.co.uk

Super Ikonta เป็นอีกหนึ่งกล้องที่ผลิตโดยบริษัท Ziess Ikon ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงใช้รุ่นนี้ในระยะหนึ่ง ก่อนที่จะพระราชทานให้แก่ นายอาณัติ บุนนาค หัวหน้าช่างภาพประจำพระองค์ในสมัยนั้น เพราะกล้องรุ่นนี้ถ่ายได้เพียง 8 รูปต่อฟิล์ม 120 หนึ่งม้วนเท่านั้น

Robot Royal No.G

flickr.com/11191083@N00

i.pinimg.com

ต่อมาบริษัท Robot ได้ผลิตกล้องรุ่น Robot Royal No.G ขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นกล้องที่พระองค์โปรดปรานมาก เนื่องจากกล้องรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับพระหัตถ์ และยังใช้ฟิล์ม 135 ทำให้ได้ภาพเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้วย

Kiev

cameratechie.blogspot.com

ในปี 2496 มี งานฉลองรัฐธรรมนูญในวันที่ 11 ธันวาคม ทางสถานทูตรัสเซียได้จัดแสดงและเปิดร้านกล้อง เจ้าหน้าที่ได้ทูลเกล้าฯ ถวายกล้อง Kiev แด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังจากนั้นพระองค์ทรงทดลองใช้ไปจนเข้าใจทุกขั้นตอนการทำงานของกล้องตัวนี้

Canon-7

leitzmuseum.org

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กล้องญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทในไทยมากขึ้น ซึ่ง Canon-7 ก็เป็นกล้องญี่ปุ่นทรงกะทัดรัดตัวหนึ่งที่พระองค์ทรงเลือกใช้ แต่เนื่องจากรุ่นนี้เป็นกล้อง Rangefider (แบบเล็งระดับตา) ที่เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ จึงไม่สามารถทำงานได้ตามพระราชประสงค์เท่าใดนัก

Canon A-1

thecamerasite.net

เรารักพระเจ้าอยู่หัว.com

Canon A-1 เป็นกล้อง SLR (Single Lens Reflex) ระดับมืออาชีพที่มีการทำงานทั้ง 2 ระบบ ทั้ง Manual และ Auto ซึ่งพระองค์ทรงใช้กล้องตัวนี้ถึง 2 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ  Canon A1/2097120 FD เลนส์ 50 mm. f1.4 และรุ่นที่สอง Canon A1/2 Lens RMC Tokina Zoom 35-105 mm. f 3.5-4.3

Canon 35

kameramuseum.de

กล้องถ่ายภาพตัวต่อมาที่พระองค์ทรงใช้คือ Canon 35 ซึ่งเป็นระบบ Auto Focus ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา แต่พระองค์ทรงใช้ได้เพียงชั่วคราว ทรงปรารภว่าใช้ง่ายเกินไป และไม่ค่อยถนัดพระหัตถ์เท่าใดนัก

Nikon F3

flickr.com/daveschoie

Nikon F3 เป็นกล้องทำด้วยโลหะที่แข็งแรงและทนทาน ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงใช้เลนส์ขนาดมาตรฐาน และเลนส์ซูมขนาด 35-105 mm. แต่เนื่องจากน้ำหนักที่มากเกินไป พระองค์จึงพระราชทานให้ช่างภาพประจำพระองค์ในเวลาต่อมา

Canon EOS 650 / EOS 620

flickr.com/theo_ochsenbein

bhphotovideo.com

เมื่อระบบอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นจนเกิดกล้องรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นมา พระองค์ทรงใช้กล้อง Canon EOS รุ่น 650 และรุ่นหลังจากนั้นคือรุ่น 620

Minolta Dynax 5000i

suaudeau.eu

Minolta Dynax 5000i เป็นกล้องอีกตัวหนึ่งที่ส้รางความแปลกใหม่ด้วยระบบที่สร้างสรรค์ อย่างระบบ Creative Expansion Card System ที่ทำให้ถ่ายภาพได้หลายสไตล์ เช่น ภาพถ่ายกีฬา ภาพถ่ายบุคคล เป็นต้น ทำให้พระองค์ท่านมีความสะดวกสบายและทรงถ่ายภาพออกมาได้เที่ยงตรง

RICOH EF

corsopolaris.net

Richoh คือกล้องที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 จับฉลากได้ และพระองค์ได้พระราชทานเป็นของขวัญจับฉลากในปีต่อมาด้วย

Canon EOS 30

Photo by Rama from Wikipedia

และกล้องถ่ายภาพล่าสุดที่พระองค์ทรงใช้คือ Canon EOS 30 ซึ่งพระองค์ทรงถ่ายภาพประชาชนด้วยกล้องตัวนี้ เมื่อครั้งเสด็จกลับจากโรงพยาบาลศิริราชนั่นเอง

สำหรับพระอัจฉริยภาพด้านทางถ่ายภาพของพระบาทพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น ได้ขจรขจายไปทั่ววงการถ่ายภาพทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น ในปี 2514 ทางสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยจึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายเข็มทองศิลปะการถ่ายภาพแด่พระองค์ท่าน ยิ่งไปกว่านั้น ราชสมาคมถ่ายภาพแห่งสหราชอาณาจักร (The Royal Photographic Society of Great Britain) ได้กราบบังคมทูลเชิญให้ดำรงตำแหน่งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (Honorary Fellow) และ สหพันธ์ศิลปะการถ่ายภาพนานาชาติ (Fediration International de l’Art Photographique) ได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวาย เกียรติบัตรสูงสุด (Honorary Excellent FIAP) ด้วย

เพื่อน ๆ คงเห็นแล้วว่า มีกล้องถ่ายภาพจำนวนไม่น้อยที่ได้เวียนเข้ามาอยู่ในพระหัตถ์ บางตัวทรงซื้อด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และไม่ได้เจาะจงว่าต้องใช้กล้องใหม่อยู่เสมอไป จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกล้องถ่ายภาพจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ของพวกเรา 

Comments