Contrast is Blend : How to จับคู่สีตรงข้ามให้ลงตัว

ในเรื่องการแต่งตัว การเลือกสีสันของเสื้อผ้า ก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ หลาย ๆ คนอาจจะมองว่า ควรใส่เสื้อผ้าสีที่มันเข้ากัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถใส่เสื้อผ้าสีขั้วตรงข้ามกันได้ เมื่อนำมาแมทช์กันแล้วก็จะได้ Contrast is Blend หรือ ความแตกต่างที่ลงตัว วันนั้นจะเป็นวันที่เราเด่นสะดุดตาตั้งแต่สี่แยกไฟแดงเลย

เวลาเราเลือกเสื้อผ้าที่จะนำมาประโคมกาย นอกจากเรื่องสไตล์ของเสื้อผ้าแล้ว การเลือกสี ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับเราเลยนะ วันนี้ ShopSpotter เลยจะมาแจกคอร์สสอนเรื่องสีให้เพื่อน ๆ ได้นำไปมิกซ์แอนด์แมตช์กับการแต่งตัวของเรา ใครบอกว่าการเลือกเสื้อผ้าต้องเลือกสีที่อยู่ในเฉดเดียวกันเท่านั้น จริง ๆ แล้ว สีที่ขัดกัน ที่เราไม่คิดว่ามันจะสามารถมาอยู่ร่วมโลกกันได้ เราก็สามารถนำมาใส่คู่กันได้นะ

@idasiriwut

COLOR is a MAGIC

เรื่องสี เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ เราอาจจะคิดว่ามันไม่สำคัญ แต่จริง ๆ แล้ว สี มันแฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างเรื่องการแต่งตัว การเลือกสีเสื้อผ้าที่เราจะนำมาใส่ในแต่ละวันก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องนึงเลย ถ้าเสื้อผ้าเรามีสไตล์ที่สวย แต่การเลือกสีที่จะนำมามิกซ์แอนด์แมตช์มันไปกันไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อยู่พอสมควรเลยนะเธอ

@idasiriwut

หลายคนมีความเชื่อว่า การแต่งตัวเนี่ย เราจะต้องแต่งตัวด้วยโทนสีที่ใกล้เคียงกัน โทนร้อนก็อยู่กับโทนร้อน โทนเย็นก็อยู่กับโทนเย็น อันนี้ก็เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลแหละ แต่สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบที่จะแต่งตัวด้วยสีเยอะ ๆ วันนี้อยากใส่สีโทนร้อนคู่กับโทนเย็น อยากเด่นเกินชาวบ้านเขาละก็ ไม่ใช่เรื่องผิดอีกเช่นกัน เพราะสีคู่ตรงข้ามกัน ก็สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ให้เป็นแฟชั่นแบบ ชิค ๆ คูล ๆ ในแบบของตัวเราเองได้ วันนี้ทางเราขออนุญาตเปิดคอร์สสอนการเลือกสีเสื้อผ้าคู่ตรงข้ามให้แมทช์กันแบบ เหมือนจะไม่เข้ากัน แต่เข้ากันให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน

CONTRAST COLOR

อะ เริ่มแรกเลย เราจะมาทำความรู้จักเรื่องสีกันก่อน ตอนเด็ก ๆ เราเคยเรียนเรื่องทฤษฏีสีกันมาแล้วใช่มั้ยล่ะ ทางเราเลยจะขอนำมา ทบทวนให้ฟังอีกซักรอบนึง ทฤษฏีในการเลือกสีเนี่ย จะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ซึ่งวันนี้ทางเราจะขอเน้นไปที่ทฤษฏี Complementary ซึ่งก็คือ การเลือกคู่สีที่อยู่ตรงข้ามกันใน Color Wheel หรือชาร์ตสี นั่นเอง

wynnsoftstudio.com

ซึ่งเราสามารถเลือกสีที่อยู่ตรงข้ามกันเพื่อนำมาใช้ในการมิกซ์แอนด์แมตช์สีเสื้อผ้าของเราได้ โดยไม่ต้องเครียดกับสายตาชาวบ้านว่ามันจะออกมาดูโอเคมั้ย เพราะมันเข้ากัน แบบไม่เข้ากัน แต่เข้ากันอยู่แล้ว อย่าไปคิดเยอะ มั่นใจเข้าไว้ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลล้วน ๆ ถ้าเราชอบ เรามั่นใจก็ลุยเลยจ้า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าอยากลองเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเอง หรืออยากจะกลายร่างเป็นสาวแฟชั่นนิสต้าแบบ ชิค ๆ คูล ๆ ก็ลองเลือกแต่งตัวในรูปแบบของสีคู่ตรงข้ามดู รับรองว่าอยู่ดี ๆ เราจะกลายเป็นแม่สาวแฟชั่นนิสต้าขึ้นมาทันที คือมองจากรังสิตก็เห็นว่าเธอกำลังจะไปเดินสยาม มันเด่นขนาดนั้นเลยนะเธอ อย่าทำเป็นเล่นไป อย่างที่บอก แค่มั่นใจ ใส่อะไรเราก็ดูสวย

@vanmalllinee

MOOD and TONE

@empch

เมื่อเราได้คู่สีที่เราถูกใจแล้วการเลือกโทนให้สีของเสื้อผ้าที่เราเลือกก็เป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน โทนความเข้ม ความสว่างของคู่สีที่เราเลือกนำมามิกซ์แอนด์แมตช์นั้น ก็ส่งผลให้เสื้อผ้าที่เราเลือกขับให้เรากลายเป็นคนดูแต่งตัวเก่งขึ้นได้เช่นกัน เช่น สีน้ำเงินสว่าง กับสีชมพูสว่าง พอนำมามิกซ์แอนด์แมตช์กันแล้วก็เกิดความลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากจะดูสดใส แปลกตาแล้ว ยังทำให้เราดูโดดเด่นกว่าชาวบ้านอีกต่างหาก จริง ๆ ถ้าเราเลือกที่จะใส่เสื้อผ้าสีสดใสเบอร์นี้แล้ว ไม่เด่นกว่าชาวบ้าน ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว รับรองว่าคนมองเหลียวคอหันกันแน่ ๆ

@meanapt

@vanmalllinee

@idasiriwut

เราสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์โทนสีเข้มกับสีเข้ม สีสว่างกับสีสว่าง หรือ สีสว่างกับสีเข้มก็ได้ ทั้งหมดอยู่ที่ความชอบ และความต้องการของเราล้วน ๆ จริง ๆ การแต่งตัวด้วยสีที่คอนทราสต์กันแบบนี้ ไม่ต้องคิดอะไรให้เยอะเลย แค่พกความมั่นใจเลเวลเยอะหน่อย ในการเลือก และการตัดสินใจในตอนซื้อ และตอนใส่

@galelega

อย่างที่บอกแหละ ชอบอะไรก็ซื้อ ชอบอะไรก็ใส่ ยังไงถ้ามันเกิดมาคู่กัน มันก็เข้ากันได้ เพราะฉะนั้น อย่าไปยึดติดอะไรมาก ชอบก็ซื้อ ชอบก็ใส่ แค่นั้นก็พอ เพราะเสื้อผ้าที่เราชอบ คือเนื้อคู่ของเราทั้งหมด

LESS is MORE

@vanmalllinee

และทางเราอยากจะขอแนะนำอีกสิ่งที่สำคัญคือ จำนวนของสีบนเสื้อผ้าของเราเอง ถ้ายังไม่มั่นใจมาก ประมาณ 80% ก็ควรจะเลือกจับคู่สีคอนทราสต์แค่ 2-3 สีก็พอ เสื้อสีนึง กางเกงสีนึง เข็มขัดสีนึง อะไรแบบนี้ เพราะมันจะดูไม่เยอะมาก (จนเกินไป) กำลังดี ไม่รกหูรกตา หรือถ้าแมทช์ออกมาไม่ดี จากแฟชั่นนิสต้าเก๋ ๆ ชิค ๆ ก็อาจจะกลายเป็นศาลพระภูมิเดินได้ไปซะอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ทางที่ดีสำหรับมือใหม่หัดแมทช์สี ก็ควรเลือกเสื้อผ้าสีพื้นที่จะนำมาแมทช์ซัก 2-3 สีก็พอ เพื่อความสบายตาและสบายใจของเรา และผู้พบเห็นคนอื่น ๆ แค่นี้ก็มีความชิค ความคูลเป็นสาวแฟชั่นนิสต้าได้แล้วแก

@julibakerandsummer

แต่ถ้าใครที่พกความมั่นใจมาจากสายสะดือแม่ตั้งแต่เกิดแล้วล่ะก็ จัดไปเลย เสื้อผ้ากี่สีก็ว่ามาเลย เสื้อมีกี่สี กางเกงมีกี่สีก็ว่ามา ถ้ามั่นใจ และพอใจที่จะแต่ง เลือกให้เข้ากัน ยังไงมันก็เข้ากันถ้าเรามั่นใจอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้

@vanmalllinee

@vanmalllinee

@idasiriwut

@julibakerandsummer

CONFIDENCE

@bowkylion

@itspinkishpink

และสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวแบบไหนก็ตาม สิ่งที่เราจำเป็นต้องมีมากที่สุดคือ “ความมั่นใจ” นั่นเอง ความมั่นใจเป็นสิ่งที่เราหาซื้อจากที่ไหนไม่ได้เลย มันมาจากอินเนอร์ในตัวเราเท่านั้น การเลือกสี เลือกโทน สไตล์เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งการเลือกว่ามันเข้ากันมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบ และความมั่นใจที่จะใส่ของเราทั้งนั้น แค่เรามั่นใจ จะใส่เสื้อผ้ากี่สี สไตล์ไหนก็ย่อมดูดี ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่าใครจะว่ายังไง ก็เราชอบ ทำตามใจตัวเองแหละเนอะ

@vanmalllinee

@vanmalllinee

@vanmalllinee

เมื่อเราได้ทำ หรือสวมใส่ในสิ่งที่เราชอบ มันจะตกยุค หรือสีแสบตาขนาดไหน ขอแค่เรามั่นใจ จะใส่อะไรก็สวย ทางเราอยากจะให้สาว ๆ มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ เรามีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน อาจจะมีแบบอย่างในการแต่งตัว แค่ยังไงเราก็ยังคงเป็นตัวเราอยู่ดี

@planis.w

เป็นยังไงกันบ้าง How to วิธีการมิกซ์แอนด์แมตช์สีคู่ตรงข้ามให้เสื้อผ้าที่เรารักดูลงตัว แบบไม่ลงตัว แต่ลงตัว คงจะถูกใจสาว ๆ หัวใจคัลเลอร์ฟูลกันเนอะ สำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนสไตล์ หรืออยากเพิ่มความสดใส เป็นแฟชั่นนิสต้าให้กับตัวเอง ก็ลองหยิบเสื้อผ้าสีที่เรารักมา มิกซ์แอนด์แมตช์ให้ดูชิค ดูเก๋กว่าชาวบ้านกันไปเลย ใครยังเลือกสีไม่เก่งก็ลองส่อง ๆ Color Wheel ดูเป็นแนวทางได้นะจ๊ะ อย่าลืมนะสาว ๆ ทุกอย่างเริ่มตนจากความมั่นใจ และความชอบของเรา ถ้าชอบแล้วมั่นใจ ก็หยิบมาใส่เลย อย่าได้แคร์ เลือกให้เข้ากับตัวเองก็พอแล้ว ทุกคนมีความสวยในตัวกันอยู่แล้ว

Comments