Now Reading:

Freeform Festival 2017 ปลุกโรงเรียนร้างให้มีชีวิตด้วยงานศิลปะ

สุดสัปดาห์นี้ใครยังไม่มีไอเดียว่าจะไปเที่ยวที่ไหน หรือว่ายังไม่รู้ว่าจะไปอีเวนต์ไหนดี เราขอแนะนำให้แวะไปย่านเอกมัยกับอีเวนต์ที่จะเปลี่ยนโรงรียนร้างให้กลายเป็นเทศกาลงานศิลปะสุดอาร์ต ที่ที่เหล่าคนมีของจะมาปล่อยไอเดียสุดเจ๋ง และเราเชื่อว่าใครที่หลงรักงานอาร์ตจะต้องหลงรักงานนี้อย่างแน่นอน

สำหรับวีคเอนท์นี้ ที่โรงเรียนร้างแถว ACMEN Complex ย่านเอกมัยกำลังจะแปรเปลี่ยนไปเป็นคอมมูนิตี้ของคนรักงานอาร์ตด้วยเทศกาล Freeform Festival 2017 ซึ่งเราขอการันตีคำว่า Freeform ว่าเขาฟรีสไตล์จริง ๆ ส่วนการเดินทาง เวลาเปิดปิด รายละเอียดอื่น ๆ ติดตามด้านล่างได้เลยจ้า

Freeform Festival

ภายในงานมีถึง 3 ชั้นด้วยกัน เดินเข้าไปเริ่มแรกเลยจะเจอกับโซนอาหาร แต่! แว้บแรกที่สายตาเราหันไปเห็นก็คือ Labrador Cafe ใครที่เป็นแฟนคลับงานแอคเซสเซอรีเนี้ยบ ๆ จาก Labrador แล้วล่ะก็ มางานนี้ไม่ได้จะเจอแค่ไอเท็มเด็ด ๆ ของร้านนะคะ แต่จะได้พบกับคาเฟ่ชิลล์ ๆ ให้ได้มาจิบกาแฟอุ่นๆ ใต้ installation ในคอนเซ็ปต์ “ให้ต้นไม้มันโตได้”

เยื้อง ๆ ออกมาหน่อยจะมีโซนดนตรีให้เราได้นั่งฟังเพลงชิลล์ ๆ แถมยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม และร้านเครื่องดื่มที่เราภูมิใจนำเสนอ เราแนะนำร้าน BIG BAR ตรงโซนหอนก เป็นร้านน้ำผลไม้ปั่นสุดครีเอทีฟ และราคาไม่รุนแรงเลย แถมยังได้เผาผลาญแคลอรี่อีกด้วยนะ

แต่ไม่ใช่การย่อยเผาผลาญจากกากใยผลไม้อะไรทั้งสิ้น แต่! กิมมิคของร้านนี้คือให้เราเลือกเมนูน้ำปั่นที่เราต้องการ และเลือกว่าจะปั่นเองหรือจะให้แม่ค้าปั่นให้ ถ้าปั่นเองก็จะราคาอยู่ที่ 30 บาท แต่ถ้าให้แม่ค้าปั่นก็ 50 บาทจ้า ถามว่าส่วนต่าง 20 บาทนี่ต่างมากไหม ก็ต้องบอกเลยว่าต่างมากทีเดียว เพราะการปั่นของร้านนี้ใช้วิธีการปั่นจักรยานให้เครื่องปั่นน้ำปั่นทำงานจ้า บอกเลยว่าเก๋สุด ๆ ร้านนี้ต้องไปโดน

เดินตรงเข้ามาเรื่อย ๆ จะเห็นร้านแผงลอยแบบที่ลอยจริง ๆ อย่าง เรือนครัวแผงลอย ด้านบนมีขนมสายไหมและไอศครีม และตัวร้านมีบันไดให้ปีนขึ้นไปซื้อ แต่ถ้าใครคิดว่าการปีนบันไดมันลำบาก เราขอรีวิวกันตรงนี้เลยว่า เขามีถังบักเก็ตให้สั่งแล้วปล่อยสายเชือกขึ้นไปให้คนทำด้านบนจ้า

ตรงเข้ามาอีกหน่อย ด้านขวามาสายตาจะเหลือไปเห็นพลาสติกใส ๆ ที่คลุมห้องเรียนอยู่ ทำหน้าที่คล้าย ๆ จะเป็นผ้าม่าน บวกกับแสงสีม่วงสีน้ำเงินวิบวับ ๆ นั่นเป็น Crazy Studio สตูดิโอศิลปะ พื้นที่ที่ให้เข้ามาปลดปล่อยจินตนาการกับของเล่นปลายเปิด สร้างเป็นผลงานได้ตามความนึกคิดทุกวันเสาร์

พ้นจากสตูดิโอไป ทางด้านซ้ายมือจะมีโซนอาหารอีกหนึ่งจุดที่มีร้านผัดไทยชื่อเก๋ ผัดไทยไฟทะลุ แต่ข้าง ๆ ร้านผัดไทยไฟทะลุ ข้าง ๆ เป็นร้าน Vegan Cafe ที่มีทั้งเครื่องดื่มชื่นใจและมีส่วนผสมของสมุนไพรช่วยย่อยอย่าง Cider Mocktail ยังมีอีกไอเท็มที่เก๋มาก ๆ ก็คือแชมพูโฮมเมด กลิ่นหอมมาก ๆ ใครที่ชอบกลิ่นอารมณ์แบบอาโรม่าหน่อย ๆ น่าจะหลงรักแชมพูและสบู่ทำมือจาก Vegan Cafe แน่นอนค่ะ

เรากรี๊ดเป็นการส่วนตัวมาก ๆ เพราะมันคือบูธของร้าน happening ที่ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเดินหอศิลป์ฯบ่อย ๆ แล้วล่ะก็​ต้องคุ้นชื่อร้านนี้เป็นอย่างดี เพราะนี่คือร้านที่รวบรวมผลงานศิลปะของหลากหลายศิลปินมาวางขายให้เราได้เสียเงินกันง่าย ๆ เลย

จะเดินทั้งทีก็ต้องแยกเป็นชั้น ๆ ไปจะสะดวกกว่ากันเยอะ เพราะโซนช้อปปิ้งจะมารวมกันอยู่ที่ชั้น 1 นี่แหละค่ะ ต่อจากฝั่งโซนอาหารแล้วเลี้ยวซ้ายมาอีกหน่อยจะเจอกับกระเป๋าผ้าลายเท่ ๆ และสินค้าแฮนด์เมดอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีโซนเก๋ ๆ อย่างเปลให้นอนชิลล์ ๆ และถ้าใครยังไม่อยากนอนฝั่งซ้ายมือต่อจากร้านกระเป๋ามา ยังมี Rice Bar Exhibition ที่เต็มไปด้วยหม้อหุงข้าวบ้างล่ะ รถเข็นขนมโบราณบ้างล่ะ

และเราไม่แนะนำให้หยุดสำรวจโซนนี้ค่ะ ถัดมาอีกหน่อยเป็นห้องโล่งสีขาวที่ให้มาสาดสีเทสีป้ายสีกันอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร และเด็ก ๆ ก็เล่นได้ไม่ต้องกังวล เพราะสีที่ใช้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก ๆ ค่ะ

มาต่อที่ห้องริมสุด เราแนะนำให้ไปมาก ๆ เพราะกิจกรรมในห้องนี้บอกได้เลยว่าไอเดียดีและเจ๋งจริง ในห้องนี้เราจะได้พบกับ 3 กิจกรรมด้วยกัน นั่นก็คือ เกมลูกหมูวิ่งหนีหมาป่า ที่ให้เราสแกน QR Code แล้วแปลงร่างกลายเป็นหมูวิ่งหนีหมาป่าบนจอเกมขนาดยักษ์ เขยิบมาอีกหน่อยจะมีกลุ่มดาวน่ารัก ๆ สำหรับคนรักท้องฟ้า และที่เก๋มากโคตร ๆ นั่นคือจุดถ่ายรูป แล้วเจ้าผนังสีขาวจะ generate ใบหน้าเราออกมาเป็นจุด ๆ แต่ละสี เท่สุด ๆ

สำรวจชั้น 1 กันมาครบถ้วนกระบวนความ เราขอเขยิบพาขึ้นบันไดที่ได้ฟีลหลอนอ่อน ๆ แต่ประดับประดาด้วยไฟนีออนสีแสบจี๊ด เราเดินมาโผล่ที่ชั้น 2 เป็นโซนจัดแสดงงานอาร์ตทั้งหลายแหล่ และบนนี้เราเจอความเจ๋งอีกเพียบ

ห้องที่รวบรวมภาพถ่ายสถานที่เดียวกันแต่ต่างเวลาในคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ความคงที่เปลี่ยนแปลง”

Even though you don’t change anything, anything changes you somehow.

อีกหนึ่งห้องเรียนที่น่าสนใจ เป็นหุ่นไม้ที่อิงพุทธศาสนา ดูเหมือนถ่ายทอดเรื่องราวของอริยสัจ 4 ออกมาในรูปแบบของงานอาร์ตที่เข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เราเดินมาเรื่อย ๆ จนพบพลาสติกใสสีเรืองแสงอีกหนึ่งห้อง หน้าตาคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นฟิล์ม แต่เราก็ไม่แน่ใจนัก เพราะอีกมุมก็รู้สึกเหมือนเห็นเป็นแมงกระพรุนยังไงยังงั้น

ห้องมุมต่อมาเรากรี๊ดมาก ๆ คอนเซ็ปต์ของห้องนี้เป็นการสร้างศิลปะจาก error นั่นเองค่ะ พี่ซันเจ้าของศิลปะในห้องนี้ได้เล่าให้เราฟังว่า คอนเซ็ปต์ของห้องเป็นการสร้างความสวยงามผ่านสิ่งที่ทำพลาด สิ่งที่เป็น error อย่างฝั่งของเซรามิก เป็นเซรามิกที่หลอมผิดรูปบ้าง ขึ้นรูปไม่ได้บ้าง แต่ที่เห็นแสงวิบวับอยู่อีกฝั่ง เป็นไฟที่คอนโทรลสีได้ เต้นตามจังหวะเพลงได้ ด้านในโครงท่อที่เดินสายไฟ มีกรอบรูปงานศิลปะสีสันสดใส ที่พี่ซันเรียกมันว่า “gliche” และยังไม่พอ เรายังไปร่วมสนุกกับความ error ต่อได้ที่จอคอมที่เราไปยืนตรงกลางแล้วขยับมือไปมา แล้วภาพที่ปรากฎบนจอจะคล้ายกับจอละลายเป็นจุด ๆ ห้องนี้เราขอบอกว่าเท่สุด ๆ แล้ว

นอกจากที่นี่จะมีโซนงานศิลปะให้เราได้ชมกันอย่างคับคั่งแบบนี้แล้ว เขายังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปเป็นประจำแต่ละสัปดาห์แตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ


งานเริ่มตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 3 ธันวาคม บัตรราคา 100 บาท ต่อสุดสัปดาห์ (ศุกร์-อาทิตย์) จองบัตรได้ที่ www.ticketmelon.com/event/freeformfest2017 ในงานไม่มีที่จอดรถ แนะนำให้ใช้ BTS ลง BTS สถานีเอกมัย และต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาไม่ไกลค่ะ

ทั้งหมดทั้งมวลที่เรานำมาฝากกันสำหรับเทศกาลฟรีฟอร์ม 2017 นี้ ไม่แนะนำให้คนรักงานอาร์ตพลาดนะคะ งานจะมีตั้งแต่สัปดาห์นี้ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 3 ธันวาคม ที่ ACMEN Complex เอกมัย โดยเวิร์กช็อปและกิจกรรมพูดคุยต่าง ๆ นานา จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละวีค ใครที่อยากทราบรายละเอียดงานแต่ละวีคเพิ่มเติม ติดได้ที่ Facebook Fanpage : Freeform Festival


อยากให้เพื่อนได้อ่าน แชร์เลย


Comments

Share This Articles
ใส่คีย์เวิร์ดแล้วกด Enter เลย