Now Reading:

ทริปสั้น 2 วัน 1 คืนกับแก๊งเพื่อนที่ ซอยอารีย์ ย่านชิค ๆ ที่ตอบโจทย​์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

ยิ่งโตก็ยิ่งนัดเจอเพื่อน ๆ ยากขึ้น เดี๋ยวนี้จะปาร์ตี้หรือเม้ามอยกันยาว ๆ ซักที จะให้ใช้เวลาแค่แป๊บเดียวในร้านคาเฟ่หรือบาร์ก็ตอบโจทย์เราได้ไม่สุดอ่ะเนอะ แต่จะให้ไปเที่ยวต่างจังหวัดจัดเต็ม full trip เวลามันก็จะไม่พอหน่อย ๆ อีก เอ้า แต่อย่าเพิ่งท้อค่ะ! ถ้าใจมันอยากปาร์ตี้กับเพื่อน มันก็ต้องได้ทำสิ!

วันหยุดชิล ๆ ที่จะถึงนี้ ShopSpotter เลยขอชวนเพื่อน ๆ มาจัดทริปสั้นสัก 2 วัน 1 คืน รับรองว่าได้ใช้เวลาแฮปปี้ ๆ กับแก๊งเพื่อนสุดเลิฟแบบเต็มอิ่มแน่นอน แต่เราขอสปอยก่อนว่าคืนนี้เราจะไปนอนกันที่  JOSH HOTEL ไลฟ์สไตล์โฮเต็ลสุดเก๋แห่งย่านอารีย์! อ่านไม่ผิดหรอกจ้า เขาตั้งอยู่ในย่านชิค ๆ อย่างอารีย์นี่แหละ ตัวโรงแรมจะเก๋แค่ไหน ไปแล้วทำอะไรได้บ้าง ต้องตามไปดูกันนนน

#DAY ONE @ ARI

 11.0o น. 

เริ่มต้นที่การนัดเจอชาวแก๊งที่ BTS สถานีอารีย์ ดินแดนสุดชิคที่เต็มไปด้วยของกินและร้านน่ารัก ๆ ตลอดสองฝั่งข้างทาง รับรองว่าเหล่านักกินมาแล้วต้องตกหลุมรักอยากกลับมาอีกแน่นอน โดยซอยอารีย์หรืออารีย์สัมพันธ์นั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นซอยย่อยของซอยพหลโยธิน 7 สังเกตง่าย ๆ ก็คือเมื่อออกจากบีทีเอสแล้วให้สังเกตว่าจะมี Villa Ari ตั้งอยู่ ให้เราลงอีกฝั่ง ย้ำ! ลงอีกฝั่งที่มีสหกรณ์นั่นแหละ จากนั้นก็เตรียมตัวลุยย่านอารีย์แห่งนี้ได้เลยยยยยยย ยยยย

เริ่มวอร์มเครื่องกันทีร้านแรกอย่าง Frank Cake Bar ซึ่งต้องบอกเลยว่าของดีของเด็กร้านนี้ก็คือโกโก้สูตรเข้มข้นและยังสามารถเลือกระดับความหวานได้หลายระดับอีกด้วย ฟินสุด ๆ ไปเลยจ้าจุดนี้  ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะถ้าชาวแก๊งของคุณเป็นคนชอบขนมหวานเราขอแนะนำให้ไปต่อที่ร้านคัพเค้กข้าง ๆ อย่าง Sis & Me Bakery Studio จากนั้นจะเดินเล่นชิล ๆ ถ่ายภาพสตรีทสวย ๆ ไว้อัพลงโซเชี่ยลกันก่อนก็ยังได้ เพราะตึกและบ้านช่องแถวนี้มีความพิเศษและน่ารักน่าถ่ายรูปอย่างบอกไม่ถูก เรียกได้ว่าไปยืนมุมไหนก็ได้รูปชิค ๆ กลับไปแน่นอน

 13.3o น. 

ตกบ่ายแบบนี้แน่นอนว่าท้องต้องร้องเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นจุดหมายต่อไปคือการหาร้านอาหารมื้อหลักสักมื้อก่อนจะเข้าที่พักกัน และร้านที่เราแนะนำว่าเหมาะกับการมาเป็นแก๊งเพื่อนนั้นก็คือ อารีย์คาเฟ่ นั่นเองงงงง ตั้งอยู่ในซฮยอารีย์ 1 ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก Frank Cake Bar มีเมนูเด็ดคือ ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง ที่ต้องบอกเลยว่าได้กุ้งแน่น ๆ เน้น ๆ เลยจริง ๆ ไม่มีหลอก รสชาติกลมกล่อมไม่เผ็ดเกินไป ราคาก็ไม่แรงมาก เอาไป 10 10 10!

และในที่สุดก็ได้เวลาเข้าเช็คอินที่ JOSH HOTEL ที่พักในคำคืนนี้ของเรากันแล้ว จุดนี้เราขอเล่าถึงคอนเซปท์เก๋ ๆ ของโรงแรมแห่งนี้ให้เพื่อน ๆ ฟังกันก่อน ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศในกรุงเทพของ เหล่าเพื่อนหนุ่มนักเดินทางจากแดนไกลถึง 4 คนที่เมื่อนำตัวอักษรขึ้นต้นมารเรียงร้อยต่อกันก็จะได้เป็นำว่า JOSH ตามชื่อของโรงแรมนั่นเอง ที่แห่งนี้เป็นเพียงมุมเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านฮิป “อารีย์” แต่ตกแต่งด้วยสไตล์ Mid Century พร้อมเพิ่มสีสันให้ดูสนุกยิ่งขึ้นจนเหมือนกับหลุดเข้าไปอีกโลกนึงเลยทีเดียว

 15.oo น. 

ช่วงบ่ายแก่ ๆ แบบนี้ชาวแก๊ง ShopSpotter ก็พร้อมแบกกระเป๋าเดินเข้าห้อง Family Room หรือห้องขนาด 4 คนนั่นเอง ถึงแม้ว่ามอง ๆ แล้วจะมีขนาดกระทัดรัดน่ารัก แต่เราพิสูจน์แล้วว่าอยู่กัน 4 คนได้แบบไม่มีอึดอัดเลยแหละ เพราะที่นี่เค้าจัดแจงห้องและเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์พร้อมของตกแต่งได้อย่างลงตัว เอาไว้กระชับความสัมพันธ์ที่ห่างเหินในหมู่เพื่อนสุดเลิฟได้เป็นอย่างดี จุดนี้แต่ละคนก็รีบพุ่งไปจองที่ เตียงใหญ่นอนคู่ และเตียง 2 ชั้น รับรองคืนนี้เมาท์กันยาวกันเช้าแน่นอน!

หรือถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากมาสวีทกับคุณแฟนแล้วล่ะก็ ที่นี่เขาก็มีห้องเตียงคู่ได้วิวสระว่ายน้ำไว้บริการด้วย อยากไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศกับคุณแฟนแบบสั้น ๆ ต้องลองมาที่ JOSH HOTEL ดูบ้างแล้วล่ะ! อ้อ อีกอย่างนึงที่ต้องชื่นชมก็คือทางโรงแรมมีการจัดเค้าเตอร์สำหรับชากาแฟและขนมรองเท้าให้ที่บริเวณหน้าลิฟต์ของทุกชั้นอีกด้วยนะเธอออ

 16.00 น. 

เก็บของและนั่งพักเหนื่อยในห้องสักแปร๊บบบ เราก็ขอตัวลงมานั่งชิลล์กับส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมกันหน่อย เพราะเวลาแบบนี้นี่แหละเป็นช่วงที่แดดล่มลมตกกำลังดี สำหรับสายฟังเพลงที่ JOSH แห่งนี้ก็มีคลังแผ่นเสียงพร้อมเครื่องเล่นสุดคลาสสิคให้เลือกฟังเลือกเล่นกันด้วย ที่สำคัญถ้าคุณเป็นนักสะสมด้วยแล้วล่ะก็ สามารถสั่งผ่านเค้าเตอร์ที่โรงแรมนี้ได้เลยจ้าาา สะดวกฟุดๆๆ หรือถ้าใครที่ยังถ่ายรูปกันไม่เต็มอิ่น หลาย ๆ มุมในโรงแรมนี้ก็สวยไม่น้อยหน้าโรงแรมหรู ๆ ใจกลางเมืองเลยทีเดียวล่ะ

 17.30 น. 

ชิลล์กับส่วนอื่น ๆ ของโรงแรมกันเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาเติมพลัง เพราะกองทัพมันต้องเดินด้วยท้องอยู่แล้วนี่หน่า เราเลยขอแวะเติมอาหารกันด่วน ๆ ที่ห้องอาหารไทย Marigold หรือที่แปลว่า “ดอกดาวเรือง” ซึ่งตามคอนเซปท์แล้วที่นี่ก็มาจากชื่อภรรยาสุดน่ารักของ Mr. Josh ที่เดินทางมาจนได้พบรักกับนางสาวดาวเรืองที่นี่ ร้านน่ารักและบรรยากาศดีมาก ๆ เลย แถมเขายังมีเพลงที่ปรับแต่งมาเพื่อร้าน Marigold โดยเฉพาะแฝงกลิ่นอายทะเลใต้ ซึ่งเขาก็มีเมนูอาหารใต้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ส่งตรงจากสมุยมาเสริมกิมมิคนี้ด้วย

 20.00 น. 

2 ทุ่มใครเขานอนกันล่ะ? ยิ่งได้มารวมแก๊งกับกลุ่มเพื่อน ๆ แบบนี้แล้วยิ่งต้องหากิจกรรมสนุกทำให้ทริปนี้มันน่าจดจำกันหน่อย คืนนี้ ShopSpotter เลยขอเลือกขลุกอยู่ในมุมโปรดหรือ “โรงหนัง” ของ JOSH HOTEL นั่นเอง ซึ่งที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก The Grand Budapest Hotel ทั้งเรื่องดีไซน์และอินทีเรียแบบวินเทจสุดเก๋ และด้านหน้าโรงหนังนี้ยังถ่ายรูปสวยด้วยนะ เพราะเขาใช้ฉากจากภาพยนตร์เรื่องดังต่าง ๆ เป็นวอลเปเปอร์ แถมเป็นแบบโปร่งแสงอีกด้วย ยิ่งเปิดไฟในห้องยิ่งสวย

#DAY TWO @ ARI
 10.00 น. 

เมื่อคืนเม้าท์เพลินไปหน่อย เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาดูนาฬิกาแล้วก็แอบตกใจ เย้ยยย มันสายขนาดนี้แล้วหรอเนี่ยยยยย เตียงนุ่มจนโดนดูดวิญญาณไปถึง 10 โมงเลย ._. อะไม่เป็นไร รีบบิดขี้เกียจกันคนละที 2 ที แล้วลุกไปทำธุระส่วนตัว จุดนี้กระเพาะมันก็เริ่มประท้วงอีกแล้ว เราเลยลงมาฝากท้องกันที่ห้องอาหารมิส Marigold กันอีกรอบ ในแบบ Buffet แสนอร่อย แต่คราวนี้ ShopSpotter ขอแนะนำมุมเด็ดมุมมหาชน ที่ถ้ามาตอนคนเยอะ ๆ ก็จะไม่มีโอกาสได้นั่งเลยเพราะเต็มตลอด

 11.00 น. 

ตะวันเริ่มสูงมันก็ยิ่งร้อน ก่อนที่จะเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันเราก็ขอนั่งพักดับร้อนกันที่ Hello Summer ร้านไอศกรีม homemade softserve ที่เปิดตอน 11 โมงพอดี๊พอดี บอกเลยตรงนี้น่ะต้องมาเพราะเป็นสปอทถ่ายรูปที่เกร๋กู้ดมาก ๆ ดีต่อใจที่สูดดดด ที่สำคัญซอฟท์ครีมที่นี่ก็ยังอร่อยถูกใจเราม๊ากกกก จัดว่าห้ามพลาดถ้าได้มีโอกาศมาพักที่นี่

Josh Hotel

แก๊งไหนอยากมีโมเมนต์น่าจดจำกับการออกไป day-night out ในโรงแรมสุดชิค คราวนี้ก็มี JOSH HOTEL เป็นอีกหนึ่งช้อยส์ตัวเต็งแล้วสิ! ตามไปสนุกกันได้ที่เลขที่ 19/2 อารีย์ซอย 4 (เหนือ) หรือจะติดต่อไปทางเว็บไซต์น่ารัก ๆ www.joshhotel.com ก็ได้เลย แล้วเจอกันนะเพื่อน ๆ !


อยากให้เพื่อนได้อ่าน แชร์เลย


Comments

Share This Articles
ใส่คีย์เวิร์ดแล้วกด Enter เลย