“คอนซีลเลอร์” ไอเท็มปกปิดชิ้นโปรดที่ช่วยเก็บริ้วรอยของสาว ๆ ให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน แต่ถึงอย่างนั้นพอนำมาใช้แล้ว กลับกลบไม่มิดอย่างที่คิด! วันนี้ทางเราจึงมาขอแนะนำไอเท็มเด็ดอย่าง Color Correcting Concealer หรือคอนซีลเลอร์สีสันต่าง ๆ ที่พอเห็นปุ๊บทำเอาเราเลือกหยิบมาใช้แทบไม่ถูก เพราะผู้ผลิตเขาก็ผลิตออกมาตั้งหลายสี ทำเอางงไปเลยว่าจริง ๆ เราควรใช้สีไหนกลบรอยอะไรกันแน่ เพราะแบบนี้ทางเราเลยพาสาว ๆ มาเลือกสี corrector ให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อที่เวลาแต่งหน้าจะได้ออกมาเป๊ะเวอร์ หมดกังวลเรื่องริ้วรอยต่าง ๆ ที่โชว์หลาบนใบหน้าของเรากันไปเลยค่ะ

ใต้ตาก็คล้ำ จุดด่างดำที่เกิดจากสิวก็ยังไม่จาง! จุดเล็ก ๆ บนใบหน้าที่เป็นปัญหาใหญ่ ทำเอาผู้หญิงเราไม่มั่นใจกันมานักต่อนัก แต่ความโชคดีก็คือ เรายังมีเครื่องสำอางที่ช่วยปกปิดร่องรอยบนใบหน้าเหล่านี้ได้ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ คอนซีลเลอร์ ซึ่งแน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนคุ้นเคยกับเครื่องสำอางชิ้นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะเลือกคอนซีลเลอร์มาเป็นอย่างดีแล้ว เวลาใช้จริงกลับรู้สึกว่ายังปกปิดร่องรอยต่าง ๆ ไม่เนียนเท่าที่ควร แต่ไม่เป็นไรค่ะซิสนอกจากคอนซีลเลอร์แล้วยังมีเครื่องสำอางที่เรียกว่า Color Correcting Concealer คัลเลอร์คอร์เรคเตอร์หรือคอนซีลเลอร์สี ที่เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นเครื่องสำอางตัวนี้กันมาบ้างแล้ว

@gillianhuangbeauty

@mintchyy

Correcting Concealer หรือคอนซีลเลอร์หลากสีสัน มีวิธีการใช้ไม่แตกต่างจากคอนซีลเลอร์ทั่วไปเลยค่ะ แต่เทคนิคของเครื่องสำอางประเภทนี้อยู่ตรงที่ การนำหลักการเรื่องสีตรงข้ามมาใช้ ดังนั้นคอร์เรคเตอร์จึงผลิตออกมาหลายสี ซึ่งพอสาว ๆ ได้เห็นแล้วอาจรู้สึกว่า กว่าจะเลือกสีที่ใช่ได้มันช่างจุกจิกกวนใจเสียจริง ก็เลยวนลูปมาจบที่คอนซีลเลอร์สีนู้ดทั่วไป ซึ่งใครที่ตัดสินใจจะใช้แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายค่ะ แต่คงจะดีกว่าไม่น้อยถ้าเราลองมาใช้คอร์เรคเตอร์สีสันต่าง ๆ ที่ทำให้กลบจุดบกพร่องบนใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น เพราะสีที่แตกต่างกันนั้น ต่างมีประโยชน์เฉพาะตัวของมันเองในการช่วยเนรมิตให้ใบหน้าของสาว ๆ หมดปัญหาเรื่องฝ้า กระ สิว หรือรอยแดงต่าง ๆ ซึ่งถ้าเราเลือกใช้ถูกล่ะก็ ขอบอกเลยว่าใบหน้าของคุณจะดูเนียนใส เป๊ะปังขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

มองเห็นข้อดีของ Correcting Concealer พร้อมทำความรู้จักเครื่องสำอางชิ้นเด็ดชิ้นนี้กันไปพอสมควรแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาพาทุกคนไปดูกันว่า นอกจากเบสิคคอนซีลเลอร์ที่มีแต่สีเบจจะเป็นตัวช่วยในการปกปิดริ้วรอยแล้ว เจ้าคอร์เรคเตอร์ที่มีคุณสมบัติคล้ายกันมาก แต่มีหลากสีสันสีจนเราเลือกใช้แทบไม่ถูกนั้น เขามีประโยชน์การใช้สอยอย่างไร ปกปิดร่องรอยเนียนแค่ไหน บทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจต่าง ๆ ให้สาว ๆ ได้ทราบ และนำไปใช้ได้ในชีวิตจริงกัน ว่าแล้วเรามาเริ่มต้นที่สีแรกกันเลยค่ะ

YELLOW

เริ่มต้นกันที่สีเหลืองเลยค่ะสาว ๆ สำหรับสีนี้ ดู ๆ ไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะมาช่วยกลบรอยอะไรได้ใช่ไหมคะ แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าเจ้าสีเหลืองนี้แหละ สามารถช่วยกลบรอยแดงต่าง ๆ อย่าง รอยสิว รอยแมลงกัด ปานแดง ฯลฯ ของสาวทุกสีผิว ยิ่งไปกว่านั้น สีเหลืองยังช่วยกลบรอยที่เกิดจากการฟกช้ำ และรอยเส้นเลือดฝอยแตกอีกด้วย… คิด ๆ ดูแล้ว แค่มีคอร์เรคเตอร์สีเหลือง ก็คุ้มไม่เบาเลยว่าไหมนะคะ

@thanyawee_

GREEN

สีเขียว เป็นอีกสีที่ใช้ได้ดีกับการแต่งหน้า ซึ่งสังเกตจากผลิตภัณฑ์เบจรองพื้นบางยี่ห้อ ก็ผลิตออกมาเป็นสีเขียว ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า สีเขียว ช่วยลดความแดงของผิวทุกประเภทเช่นเดียวกับสีเหลืองเลยค่ะ จะรอยผื่น หรือรอยไหน ๆ ที่เป็นสีแดง บอกเลยว่าสีเขียวสีเดียวเอาอยู่ไปเลย หรือใครที่มีผิวแดงอยู่แล้ว เราแนะนำให้ลองใช้ดูนะคะ เพราะสีเขียวจะช่วยดร็อปความแดง ทำให้ใบหน้าคุณดูนวลเนียนอย่างเป็นธรรมชาติได้จ้า

@gagagail

LAVENDER

นอนไม่พอ ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าที่เคยออร่าใสปิ๊ง ดูหมองคล้ำลง และปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือ เจ้ารอยช้ำใต้ตา ที่ดำคล้ำจนเป็นแพนด้านี่แหละ ที่ใช้คอนซีลเลอร์กลบเท่าไหร่ ก็ปิดไม่มิดสักที ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการลงคอเรคเตอร์สีม่วงพาสเทลค่ะ โดยสีม่วงจะช่วยทำให้รอยคล้ำต่าง ๆ ดูสว่างขึ้น ซึ่งสีม่วงนั้นจะเหมาะกับสาวผิวออกแทน ๆ หรือผิวแบบ Medium Tone และไม่เหมาะกับสาวผิวขาวเหลือง ดังนั้นถ้าจะเลือกใช้อย่าลืมคำนึงถึงสีผิวของตัวเองด้วยนะคะ

@fahsarika

PINK

กลบรอยหมองคล้ำใต้ตาของสาวผิวแทนไปแล้ว มาถึงคราวของสาวผิวขาววิ๊งกันบ้างดีกว่า สำหรับสาว ๆ ผิวขาว ที่มีปัญหาเรื่องรอยหมองคล้ำต่าง ๆ ควรเลือกใช้คอร์เรคเตอร์สีชมพูค่ะ โดยสีนี้จะช่วยเพิ่มความสว่างให้รอยหมองคล้ำอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าของเราดูสดใส ไม่โทรม และที่สำคัญก็คือสีชมพูนั้นจะดูกลมกลืนกับผิวขาว ๆ ของเรามากที่สุดนั่นเองจ้า

@pantipa.a

PEACH

ยังค่ะ… ยังไม่จบเรื่องรอยหมองคล้ำ เพราะรอยประเภทนี้ เป็นปัญหาที่สาวหลายคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคนแค่นอนดึกคืนเดียวก็สามารถเกิดรอยช้ำใต้ตาได้ แล้วนับประสาอะไรกับสาวที่โหมงานหนัก นอนดึกอยู่บ่อย ๆ ว่าไหมคะ สำหรับคอร์เรคเตอร์โทนพีชนั้น เป็นสีที่เหมาะกับการลดรอยหมองคล้ำของสาวผิวขาว ไปจนถึงสาวผิว Medium Tone นอกจากนี้สีพีชยังช่วยปกปิดรอยแผลเป็นจากสิว และจุดด่างดำต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดีอีกด้วยค่ะ ใครที่เจอปัญหาแผลเป็นต่าง ๆ ล่ะก็ จัดเลยค่ะ คอร์เรคเตอร์สีพีชช่วยคุณได้แน่นอน

@bba_na_na

ORANGE

มาต่อกันที่ คอร์เรคเตอร์สีส้มกันเลยค่ะ สำหรับสีส้มนั้น ก็เป็นอีกสีที่ช่วยเรื่องรอยคล้ำใต้ตาได้อย่างดี ทั้งยังรวมถึงรอยจุดสีน้ำตาล เช่น ฝ้า กระ ต่าง ๆ และรอยที่เกิดจากการฟกช้ำต่าง ๆ อีกด้วย โดยสีผิวที่เหมาะกับการเลือกใช้คอร์เรคเตอร์สีนี้ คือ สาวผิวแทน และสาวผิวสีเข้มค่ะ

@namtanlitaa

RED

คอร์เรคเตอร์สีแดง เป็นสีที่สาว ๆ อาจไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าไหร่ แต่เราอยากจะบอกว่าสีนี้ก็มีประโยชน์ไม่แพ้สีอื่น โดยเฉพาะกับสาวที่มีสีผิวเข้ม การมีคอร์เรคเตอร์สีแดง จะช่วยชีวิตคุณได้อย่างดีเชียวล่ะ โดยสีแดงนั้นจะช่วยกลบรอยหมองคล้ำใต้ตา และรอยจุดด่างดำต่าง ๆ ในสาวผิวเข้มได้ดี… เห็นไหมคะ ไม่ว่าคุณจะมีสีผิวแบบไหนก็สวยได้ เพราะเครื่องสำอางเขาผลิตออกมาเพื่อซัพพอร์ตผู้หญิงทุกคน ดังนั้นผิวสีไหนก็ไม่สำคัญเท่าเรากล้าที่จะแต่งตัว และมั่นใจในตัวเองนะคะ

@jukukoo

BLUE

ปิดท้ายกันที่ คอร์เรคเตอร์สีฟ้าเลยจ้า สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวขาวเกินเหตุ ขาวจนซีด แล้วรู้สึกไม่สดใส การใช้คอร์เรคเตอร์โทนฟ้า จะช่วยทำให้ผิวที่ซีด ดูกระจ่างใสแบบไม่โทรมได้ค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยกลบร่องรอยสีส้มต่าง ๆ เช่น สาว ๆ ที่มีผิวแทนแล้วผิวออกส้มเกิน คุณสามารถใช้สีฟ้าลดความส้มลงได้ แค่นี้ใบหน้าของคุณก็จะดูสวยบาลานซ์ ผิวฉ่ำกำลังดีแล้วค่ะ

@gracebuchita

HOW TO USE CORRECTING CONCEALER

รู้จักกับคอร์เรคเตอร์สีต่าง ๆ กันไปแล้วว่า มีส่วนช่วยกลบปัญหาผิวแบบไหนบ้าง แต่จะพาไปรู้จักอย่างเดียวแต่ไม่บอกว่าใช้อย่างไร เห็นที่เราจะทำหน้าที่บกพร่อง เพราะฉะนั้นมาเลยค่ะ เราจะบอกขั้นตอนการใช้คอร์เรคเตอร์ให้สาว ๆ ได้ไปทำตามกัน จะได้แต่งหน้าได้สวยเป๊ะ ไม่พลาด

เลือกสีคอร์เรคอเตอร์ที่ใช่ก่อนเลยค่ะ รีเช็คว่าเราจะกลบริ้วรอยอะไรบ้าง และอย่าลืมเรื่องสีผิวของเราเป็นแบบไหนด้วย ทีนี้ก็เลือกสีคอร์เรคเตอร์ที่เหมาะกับสีผิวตัวเอง ก่อนจะปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป
คอร์เรคเตอร์พร้อมแล้ว ให้สาว ๆ ลงครีมบำรุงเติมความชุ่มชื้นลงใบหน้าเลยค่ะ โดยเรื่องจาก Moisturizer แล้วตามด้วย Primer
ใช้คอร์เรคเตอร์ค่อย ๆ แตะลงไปในบริเวณที่เราต้องการกลบให้มิด โดยไม่ต้องใช้เยอะนะคะ ลงเบา ๆ เพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอต่อการลบจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าแล้วล่ะค่ะ
ค่อย ๆ เบลนสีคอร์เรคเตอร์ให้เนียนเรียบไปกับผิวของเรา จากนั้นให้รอสักครู่หนึ่ง เพื่อให้เครื่องสำอางเซ็ตตัว ก่อนปิดท้ายด้วยการลงรองพื้น และลงแป้งตามปกติ หรือใครอยากให้หน้าเนียนสุด ๆ ล่ะก็ คุณสามารถใช้คอนซีลเลอร์ลงก่อนลงรองพื้นกับแป้งด้วยก็ได้ค่ะ เพียงแค่นี้ใบหน้าของคุณก็จะสวยเพอร์เฟ็ค เป๊ะกว่าเดิมแล้วล่ะจ้า

@mintchyy

RECOMMENDED ITEM

ทราบวิธีการใช้ไปแล้ว ก็ถึงเวลาของการชี้เป้า ไอเท็มเริ่ด ๆ ที่ควรค่าแก่การไปตำกันแล้ว ดังนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่า มีคอร์เรคเตอร์แบรนด์ไหนบ้าง ที่ควรค่าแก่การมีไว้ครอบครอง!

NYX Color Correcting Palette

ราคาตลับละ 545 บาท

@nyxcolorcorrectingpalettemurah

Wet n Wild CoverAll Concealer Palette

ราคาตลับละ 249 บาท

@wetnwildthailand

Urban Decay Naked Skin Color Correcting Fluid

ราคาประมาณแท่งละ 1,200 บาท

@makeupfeed.__

หายงงกันแล้วใช่ไหมคะ กับวิธีการเลือกใช้สีคอร์เรคเตอร์ ให้ตรงกับสีผิวและการใช้งาน ทีนี้ก็ได้เวลาไปลองส่องกระจก เช็คใบหน้าของเราซะหน่อย ว่ามีร่องรอยอะไรบ้างที่ต้องการปกปิด จากนั้นก็ค่อยตัดสินใจไปหาซื้อคอร์เรคเตอร์ที่มีสีตรงกับความต้องการเราที่สุด แต่ถ้าเกิดคิดว่าบางครั้งเราก็อยากจะเก็บใบหน้าให้กริบ ให้เป๊ะ ก็สามารถเลือกซื้อแบบที่มีหลายสีในตลับเดียวอย่างไอเท็มที่เรานำมาแนะนำข้างต้นก็ได้ค่ะ รับรองว่ายังไงเราก็ได้ใช้กันคุ้มแน่นอน

การลงคอร์เรคเตอร์ เป็นไอเท็มเสริมที่จะช่วยปกปิดข้อบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้า และอีกสิ่งที่ตามมาก็คือ ผิวหน้าของเราก็จะอุดมไปด้วยเครื่องสำอางหลายตัวเลยทีเดียว ดังนั้นในขั้นนตอนการทำความสะอาด สาว ๆ ก็ควรพิถีพิถันกันหน่อยนะจ้ะ เพราะถ้าหากไม่ล้างหน้าให้ดี เครื่องสำอางต่าง ๆ เหล่านี้ ก็อาจตกค้างอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นที่มาของการเกิดสิวอุดตันได้ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้จักแต่งหน้าตัวเองให้สวยเป๊ะแล้วก็อย่าลืมดูแลผิวให้ดี เพื่อให้ผิวสวยหน้าใสอยู่กับเราไปนาน ๆ และไม่แน่ว่าถ้าหากเราใส่ใจเรื่องการทำความสะอาด การทาครีมบำรุงต่าง ๆ นานา อนาคตเราก็อาจจะหน้าดี จนสามารถโชว์หน้าสดโดยไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์กลบก็เป็นไปได้นะคะซิส

อยากให้เพื่อนได้อ่าน แชร์เลย

Comments

ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ทำให้เพื่อนๆหลายคนต้อง WFH หรือหยุดอยู่บ้าน บางทีก็ได้แต่นั่งๆ นอนๆ ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนร่างกาย จะให้ไปยิมตอนนี้ก็ไม่ได้ เพราะก็ยังปิดอยู่แถมเสี่ยงมากๆ การออกกำลังกายอยู่บ้านก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่พอจะทำได้ในช่วงนี้ ซึ่งการออกกำลังกายแบบเดิมๆไม่ว่าจะเป็นโยคะหรือ บอดี้เวท บางทีดูซำ้ๆทำนานๆก็เบื่อ บางคนที่บ้านก็ไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรเยอะ...