Now Reading:

รวม 3 แฟชั่นโชว์แบรนด์​ เสื้อผ้าผู้หญิง สุดหรู ต้อนรับฤดูกาล A/W 2017

แฟชั่นโชว์จากแบรนด์ เสื้อผ้าผู้หญิง หลากหลายแบรนด์ต่างกำลังเผยโฉมคอลเลกชั่นใหม่ ต้อนรับฤดูกาล Autumn/Winter 2017 จะมีดีไซน์สวยแค่ไหน จะมีแบรนด์อะไรกันบ้าง และจะน่าสนในขนาดไหน เราไปติดตามชม พร้อมอัปเดตเทรนด์แฟชั่นประจำฤดูกาลกันหน่อยดีกว่าค่ะ

1. มาริฮอร์น (Marihorn) 

‘เราเชื่อว่าผู้หญิงหลายคนต้องมีเหตุการณ์วัยเด็กที่ชอบเข้าไปรื้อไปเล่นในตู้เสื้อผ้าของคุณแม่ เพราะรู้สึกว่าชุดที่แม่เราใส่ รองเท้า หรือแม้กระทั้งเครื่องสำอางของแม่มันดูสวยไปหมด ซึ่งสิ่งนี้มันสะท้อนให้เห็นว่าผู้หญิงทุกคนรักการแต่งตัว และเสื้อผ้าก็เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ผู้หญิงแต่ละคนได้ดึงจุดเด่นของตนเองออกมาได้ ในคอลเลกชั่นนี้เราก็เลยหยิบเอาเรื่องราวในวัยเด็กตรงนั้นมาถ่ายทอดเป็นเสื้อผ้าดีไซน์ร่วมสมัยที่มีกลิ่นอายของความเป็นวินเทจแฝงเอาไว้’ – เมย์-มาริษา ฮอร์น โหลทอง

ย้อนวันวานกลับสู่ห้วงแห่งความทรงจำในวัยเด็กกับแบรนด์เสื้อสตรีหรู ‘มาริฮอร์น’ (Marihorn) ในงานแฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2017 ที่มีชื่อว่า ‘ฟอร์เอฟเวอร์ ยัง’ (Forever Young) พร้อมเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ เมย์ พิชญ์นาฏ / นานา ไรบีนา / หยาดทิพย์ ราชปาล / ครีม เปรมสินี / โม จิรัชยา / มะนาว ศรศิลป์ / มุกดา นรินทร์รักษ์ / เซฟฟานี่ อาวะนิค / ฮาน่า ทัศนาวลัย / แป้งโกะ จินตนัดดา / บี ปิยะวรรณ / นิหน่า สุฐิตา / หว่าหวา ไพลิน / จอย ศิริลักษณ์ และอีกมากมาย ร่วมเผยถึงวิธีการแต่งตัวสไตล์วินเทจและเคล็ดลับดูแลตัวเองให้ดูดีเสมอ

โดยในคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2017 ฟอร์เอฟเวอร์ ยัง(Forever Young) ทางทีมดีไซน์ได้นำเสนองานออกแบบเสื้อผ้าบนซิลลูเอทที่สวมใส่ได้ง่าย ผ่านเส้นสายการตัดเย็บที่ช่วยขับเน้นเรือนร่างของหญิงสาวให้ดูน่าค้นหาในทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิต ในชุดเดรสตัวหรูที่เกิดจากเทคนิคการตัดเย็บผ้าลูกไม้หลากหลายลวดลายเข้าด้วยกัน รวมถึงเสื้อแจ็คเก็ตผ้ากำมะหยี่ปักลายดอกไม้สไตล์วินเทจที่ถือเป็นชิ้นเด่นประจำซีซั่น โดยมีลายพิมพ์ดอกไม้นานาชนิดและงานปักไหมสีสันต่าง ๆ ที่ทางทีมดีไซน์ตั้งใจออกแบบให้เป็นไฮไลท์เด่นของคอลเลกชั่นนี้ เพิ่มความอ่อนหวานให้เดรสสั้นและเสื้อลายพิมพ์ดอกไม้ตัวเก๋ด้วยการตัดเย็บระบายรัฟเฟิลเข้าไป สวมใส่กับกระโปรงหรือกางเกงผ้าซิลค์ชีฟอง ผ่านการเลือกใช้โทนสีเบสิคสีขาวและสีดำ รวมถึงเฉดสีพาสเทลอย่างสีฟ้าและสีชมพู เพิ่มความสดใสด้วยเครื่องประดับต่างหูไข่มุกในรูปทรงดอกเดซี่ ที่สามารถนำเสนอถึงสไตล์วินเทจได้เป็นอย่างดี รวมถึงกระเป๋าลายปักทรงกลมที่สาว ๆ สามารถถือได้ในทุกวัน และรองเท้าพื้นหนาปักไหมสีพาสเทลที่สร้างความสนุกให้กับการมิกซ์แอนด์แมทช์ของผู้หญิงได้อย่างไม่รู้จบ

เสื้อผ้าผู้หญิง

ย้อนวันวานกลับไปในวัยเด็กที่สนุกกับการแต่งตัวในตู้เสื้อผ้าของคุณแม่อีกครั้ง ในคอลเลกชั่น ฟอร์เอฟเวอร์ ยัง(Forever Young) จากแบรนด์ มาริฮอร์น’ (Marihorn) ได้แล้ววันนี้ที่

  • ศูนย์การค้าสยามสแควร์ วัน ชั้น 3
  • ศูนย์การค้าเซน ในเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2
  • คริสตัล บูทีคส์ ชั้น 1
  • ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น 2

2. คานิท (Canitt)

‘เรายังคงการออกแบบเสื้อผ้าที่สามารถช่วยขับเน้นส้วนโค้งเว้าให้หญิงสาวได้เผยเสน่ห์อันเย้ายวนและสง่างามเมื่อสวมใส่ชุดของคานิทเอาไว้ในทุกคอลเลกชั่น แต่ในคอลเลกชั่นนี้เราได้เพิ่มเรื่องของเทคนิค รวมถึงการเลือกใช้วัสดุในการตัดเย็บลงไปเพื่อช่วยเพิ่มรายละเอียดให้เสื้อผ้ามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อย่างการเลือกใช้เนื้อผ้าก็จะแตกต่างจากซีซั่นที่แล้ว เพราะในคอลเลกชั่นนี้เราเลือกใช้ผ้าซาตินนำเข้าจากประเทศอิตาลีที่เหมาะกับการจับเดรปที่สุด รวมถึงการใช้โลหะสีทองมาตัดเย็บเข้ากับเนื้อผ้าเพื่อช่วยดึงดูดสายตาให้กับชุดมากยิ่งขึ้น รวมถึงลายพิมพ์ซิกเนเจอร์ประจำซีซั่น โมเดิร์น มาเบิ้ล (Modern Marble) ที่เกิดจากการลดทอนเส้นสายของรูปทรงเรขาคณิต เพราะเมื่อผนวกเข้ากับเนื้อผ้าที่พลิ้วไหวจะทำให้ชุดเดรสสามารถสื่อถึงคาแรคเตอร์อันอ่อนหวานและแข็งแกร่งของหญิงสาวผู้สวมใส่ได้ในขณะเดียวกัน’ – นิดหน่อย ขนิษฐา

ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ฝีมือเฉียบประจำแบรนด์ ‘นิดหน่อย-ขนิษฐา ดรุณเนตร’ ได้จับคู่แรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าผ่านความงดงามของผลงานศิลปะของสองศิลปินดังจากสองยุค ได้แก่ อันโตนิโอ คอร์ราดีนี (Antonio Corradini) ประติมากรผู้โด่งดังจากยุครอคโคโค และ แคส เบิร์ด (Cass Bird) ช่างภาพชื่อดังจากกรุงนิวยอร์ก ถ่ายทอดเป็นเสื้อผ้าดีไซน์โก้หรูที่ผสานความงดงามจากผลงานของสองศิลปินต่างเวลาเอาไว้ได้อย่างน่าหลงใหล ในคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2017 ที่มีชื่อว่า ‘รีไวดริ่ง’ (Rewildling) พร้อมอวดโฉมให้เหล่าแฟนคลับแบรนด์ร่วมชมพร้อมกันอย่างใกล้ชิด ที่บริเวณร้านคานิท ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม โซนไทยไทย ชั้น 2

โดยงานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากเหล่าแฟนคลับแบรนด์และเหล่านักแสดงชื่อดังมากมาย อาทิ  แต้ว ณฐพร / มิ้นท์ ชาลิดา / ไอซ์ ปรีชญา / เดียร์น่า ฟลีโป / ไอซ์ อามีนา / ดาว พิมพ์ทอง / พอลลี่ พรพรรณ / น้ำตาล ชลิตา / เก๋ ชลลดา และอีกมากมาย

‘คานิท’ (Canitt) แบรนด์แฟชั่นสตรีภายใต้คอนเซ็ปต์ Dazzling, Enigmatic และ Magnificent สามคำที่สามารถบ่งบอกถึงเอกลักษณ์การดีไซน์ได้เป็นอย่างดี ที่นำความงดงามทางแฟชั่นในแต่ละยุคสมัยมาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ของหญิงสาวในยุคปัจจุบัน ให้สนุกไปกับการสร้างสรรค์ลุคใหม่ หญิงสาวในแบบฉบับของ ‘คานิท’ (Canitt) จึงเป็นหญิงสาวที่มีความทันสมัย ชื่นชอบในความโก้หรู แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ผสานความเซ็กซี่อย่างมีระดับเอาไว้

สำหรับซีซั่นนี้ทีมดีไซน์เนอร์ได้ออกแบบชุดให้ช่วยขับเน้นส่วนโค้งเว้าของหญิงสาวในรูปทรงนาฬิกาทราย เพิ่มจุดเด่นด้วยเทคนิคพิเศษอย่างการจับเดรป การอัดพลีท รวมถึงการซ้อนเลเยอร์ผ้าตาข่ายสลับสีที่ช่วยพรางรูปร่างได้เป็นอย่างดี และอีกหนึ่งเนื้อผ้าที่เป็นไฮไลท์เด่นประจำคอลเลกชั่นนี้คือผ้าตาข่ายทูลล์ประดับกากเพชรที่ถูกนำมาตัดเย็บเป็นชุดเดรสดีไซน์โก้หรู รวมถึงผ้าซิลค์ซาตินและผ้าซิลค์ชีฟองพิมพ์ลายที่มาในชุดเดรสสุดพลิ้วไหวเพิ่มความสนุกให้การแต่งตัวรับลมหนาวนี้ ส่วนโทนสีหลักที่เลือกใช้ ได้แก่ สีครีม (Ivory Wildness), สีแดงเข้ม (Ruby Red) และสีส้มหมอก (Amber Tangerine) ที่คัดสรรจากผลงานภาพถ่ายของ แคส เบิร์ด (Cass Bird) และที่สำคัญโทนสีเหล่านี้ยังสามารถเข้ากับทุกเฉดสีผิวของผู้หญิงไทยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

สัมผัสประสบการณ์ความงดงามทางแฟชั่นในคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2017 ‘รีไวดริ่ง’ (Rewildling) พร้อมกันได้แล้ววันนี้ที่

  • ร้านคานิท (Canitt) ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1
  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม โซนไทยไทย ชั้น 2
  • โชว์รูม ‘คานิท’ (Canitt) พาร์คเลน เอกมัย ชั้น 2

3. สมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพ ฯ (BFS)

ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านแฟชั่นของไทยกันอย่างต่อเนื่องกับ สมาคมแฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพ ฯ หรือ Bangkok Fashion Society (BFS) จากความร่วมมือของเหล่าสมาชิกแบรนด์แฟชั่นไทยแถวหน้า ที่มีอุดมการณ์ด้านความคิดสร้างสรรค์และวิถีการทำงานร่วมกัน ซึ่งนับเป็นปีที่ 7 แล้วของการรวมพลังสร้างสรรค์กำหนดและโชว์ทิศทางแฟชั่น (Fashion Trends) ถ่ายทอดเป็นผลงานคุณภาพประดับวงการแฟชั่นไทยและผลักดันให้อุตสาหกรรมแฟชั่นของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เช่นกันกับซีซั่นนี้ ที่ทางสมาคมฯ ได้ปลุกฤดูกาลออทั่ม/วินเทอร์ 2017 จัดแฟชั่นโชว์อวดโฉมผลงานการดีไซน์ล่าสุดให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้อัพเดทเทรนด์พร้อมกันอย่างใกล้ชิดซึ่งได้รับเนรมิตลุคสวยด้วยเครื่องสำอาง NYX  ที่ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ บริเวณโซนคิวเรเตอร์ชั้น 2 ศูนย์รวมสุดยอดผลงานของดีไซเนอร์ไทยชั้นนำ

 

โดยในปีนี้ได้มีการจัดโชว์คอลเลกชั่นจาก 10 แบรนด์ไทยชั้นนำ จากความร่วมมือของเหล่าดีไซน์เนอร์แถวหน้า ได้แก่

  • พลพัฒน์ อัศวะประภา จากแบรนด์ ‘อาซาว่า’ (ASAVA) และ ‘เอ เอส วี’ (ASV)
  • ภาณุ อิงคะวัต จากแบรนด์ ‘เกรฮาวด์ ออริจินอล’ (GREYHOUND ORIGINAL)
  • ภูภวิศ กฤตพลนารา จากแบรนด์ ‘อิชชู่’ (ISSUE)
  • มลลิกา เรืองกฤตยา จากแบรนด์ ‘คลอเส็ท’ (Kloset)
  • มิลิน ยุวจรัสกุล จากแบรนด์ ‘มิลิน’ (MILIN)
  • นัทธนุช วงศ์พัวพันธ์ จากแบรนด์ ‘ตุ๊ดตี้ แอนด์ ตุ๊ดตี้ฟรุตตี้’ (TUTTI & TUTTI FRUTTI)
  • อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์ จากแบรนด์ ‘วิคธีร์รัฐ’ (VICKTEERUT)
  • ปฏิญญา เกี่ยวข้อง จากแบรนด์ ‘ปฏิญญา’ (PATINYA)
  • ธนาวุฒิ ธนสารวิมล จากแบรนด์ ‘ที แอนด์ ที’ (T AND T)

สำหรับในฤดูกาลออทั่ม/วินเทอร์ 2017 นี้ ทาง สมาคมแฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพ ฯ หรือ Bangkok Fashion Society (BFS) ได้นำเสนอคอลเลกชั่นใหม่ที่แต่ละแบรนด์ต่างก็มีผลงานการออกแบบที่ความโดดเด่นเฉพาะตัว หากแต่ยังอยู่ภายใต้ทิศทางที่สอดคล้องกันอยู่ โดยสามารถจัดเป็นหมวดหมู่ แบ่งออกเป็น 3 เทรนด์หลัก ดังนี้

  1. Feministo การดึงเอาเสน่ห์และความอ่อนโยนของผู้หญิง มาแต่งแต้มดีเทลสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของหญิงสาวที่อ่อนหวานได้อย่างลงตัว
  2. Opposite Atrrction ความขัดแย้งที่ลงตัว ได้ถูกนำมาเป็นไอเดียหลักในการเลือกใช้โทนสี การออกแบบลายพิมพ์ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุในการตัดเย็บ
  3. Culturism แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่เหล่าบรรดาดีไซน์เนอร์ได้เดินทางไปสัมผัสโดยมุมมองทางวัฒนธรรมตลอดจนความแตกต่างของแต่ละที่ ได้ถูกนำมาเป็นดีเทลในการรังสรรค์เสื้อผ้าประจำซีซั่นนี้

นอกจาก 3 เทรนด์หลักในซีซั่นนี้แล้ว สมาคมแฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพ ฯ หรือ Bangkok Fashion Society (BFS) ยังเผยเทรนด์ถึงสีมาแรง ซิลลูเอทที่เหมาะกับฤดูกาลนี้ รวมถึงดีเทลและเทคนิคการตัดเย็บที่แปลกใหม่

สำหรับโทนสีที่โดดเด่นสำหรับออทั่ม/วินเทอร์นี้ แบ่งออกเป็น 3 เทรนด์ ดังนี้

  • Neutral โทนสีเบสิคอย่างสีเบจ, สีเทา และเฉดสีเอิร์ธโทนได้ถูกนำมาใช้สำหรับการทำเสื้อผ้าในซีซั่น เพื่อมอบความสบายตาสำหรับการสวมใส่ที่เข้ากับฤดูกาล
  • Contrast การผสมผสานระหว่างเฉดสีร้อนแรง อาทิ สีแดง และสีชมพู เข้ากับโทนสีคลาสสิคอย่างสีดำ สีน้ำเงิน และสีขาว สร้างความแตกต่างที่ลงตัวให้กับสร้างสรรค์ลุคสุดเก๋ประจำซีซั่นนี้
  • Sorbet color การนำเอาเฉดสีของไอศกรีมรสชาติต่างๆ มาใช้ เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับการแต่งตัว

ในส่วนโครงร่างของเสื้อผ้าที่เหมาะกับฤดูกาลนี้ แบ่งออกเป็น 3 เทรนด์ด้วยกัน ดังนี้

  • Elongate ความยาวของเสื้อผ้าไม่ว่าจะปรากฏอยู่บนเดรส เสื้อตัวบน หรือกระโปรงท่อนล่าง ยังคงสร้างความงดงามอย่างคลาสสิคได้ดีเสมอ
  • Oversize โครงร่างของชุดหรือดีเทลการจับเดรปของแขนเสื้อให้มีขนาดใหญ่ เพื่อนำเสนอความโดดเด่นของเสื้อผ้า เพิ่มความสนุกให้การแต่งตัวได้อย่างไม่รู้จบ
  • Flared ความบานของเสื้อ, กระโปรง และขากางเกง ถูกนำมาใช้ในซีซั่นนี้เพื่อสร้างลุคแปลกใหม่ที่พลิ้วไหลที่โดดเด่นยิ่งขึ้น

ส่วนดีเทลการออกแบบที่ถูกนำมาใช้ในซีซั่นนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกัน

  • All about textures เพิ่มเอกลักษณ์โดดเด่นให้กับงานดีไซน์ด้วยการติดประดับลูกเล่นต่างๆ ลงบนผืนผ้า ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งขนนก รวมถึงเนื้อผ้าอย่างผ้าทูลหรือเนื้อผ้าลูกไม้ที่ถูกนำมาประดับบนชุด Sporty meets fashion การนำจุดเด่นของชุดกีฬามาเป็นหนึ่งแรงบันดาลใจในการออกแบบออกแบบเสื้อผ้า ที่ผสานเข้ากับเสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ได้อย่างลงตัว
  • Multi tones การผสมผสานระหว่างความหลากหลายของลวดลาย และสีสัน  ที่สามารถสร้างเสน่ห์และเพิ่มความสนุกให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี
  • Ruffles ดีเทลการจับจีบระบายยังคงสามารถเพิ่มลูกเล่นและนำเสนอความเป็นเฟมินีนให้หญิงสาวผู้สวมใส่ได้ในทุกฤดูกาล

นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ยังได้นำเสนอลายพิมพ์เด่นประจำซีซั่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ลวดลาย ดังนี้

  • Typo t-shirt ลายพิมพ์ตัวอักษร และโลโก้ของแบรนด์ คำที่อินเทรนด์ที่ทางแบรนด์ต้องการนำเสนอ ได้ถูกถ่ายทอดลงบนเสื้อยืดตัวเท่
  • Fantasies blooms ลายดอกไม้ที่สามารถสร้างความน่าหลงใหลให้กับเสื้อผ้าตัวโปรดได้เป็นอย่างดี
  • Sport stripes ลายทางคลาสสิคอย่างลายทางและลายขวางตอกย้ำถึงความเรียบโก้ที่แฝงความสนุกของการมิกซ์แอนด์แมทช์เอาไว้

ทั้งหมดนี้คือภาพรวมผลงานการดีไซน์ที่น่าสนใจประจำฤดูกาลออทั่ม/วิมเทอร์ 2017 นับเป็นอีกหนึ่งมิติของการทำเสื้อผ้าที่จะสามารถช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย แต่ที่สำคัญคนไทยทุกคนต้องร่วมมือกันสนับสนุน เพื่อสร้างกระแสนิยมให้ดีไซเนอร์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล


อยากให้เพื่อนได้อ่าน แชร์เลย


Comments

Share This Articles
ใส่คีย์เวิร์ดแล้วกด Enter เลย